โลกของเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสาขาใหม่ แต่มีความจำเป็นอย่างยิ่งซึ่งถูกนำมาใช้ในธุรกิจหลายพันแห่งทั่วโลก เช่นเดียวกับเทคโนโลยีประเภทใดก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงอยู่เสมอ ก็เหมือนกับการมองคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในยุค 80 เทียบกับปัจจุบัน สิ่งนี้จะทบทวนแนวโน้มของเทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีประเภทแรกที่จะอธิบายคือเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ นี่คือการใช้ไมโครชิปเซมิคอนดักเตอร์ในการใช้งานที่เพิ่มขึ้น เทคโนโลยีกำลังแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ขนาดเล็กซึ่งถูกใช้จริงในอุตสาหกรรมรถยนต์ตั้งแต่ยุค 70 มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ราคาถูกลงซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งเป็นสาเหตุที่ธุรกิจต่างๆนำมาใช้มากขึ้น

ตัวอย่างของการใช้ไมโครชิปเหล่านี้กับระบบไมโครอิเล็กทรอนิคส์ (MEM) ที่เพิ่มเข้าไปในเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท นอกจากนี้ยังถูกใส่เข้าไปในหัวของฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์และเครื่องวัดความเร่งที่ใช้ถุงลมนิรภัย

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีประเภทต่อไปคืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล สิ่งเหล่านี้จะเป็นเช่นดิสก์ไดรฟ์ซึ่งยิ่งคุ้มค่ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น พวกเขายังพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นซึ่งได้ขยายจำนวนข้อมูลที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง ปัจจุบันข้อมูลอยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากกว่ารูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากวิธีการจัดเก็บข้อมูลและการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ราคาของคอมพิวเตอร์จึงลดลงอย่างมากตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 90

วิธีที่สามเทคโนโลยีมีแนวโน้มคือผ่านระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อในเครือข่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายท้องถิ่นหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง ความก้าวหน้าในพื้นที่นี้เกิดจากเครือข่ายใยแก้วนำแสง อาจเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้เครือข่ายเติบโตขึ้นในระดับนี้เป็นเพราะผู้คนใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้นอย่างทวีคูณ

สุดท้ายนี้สิ่งที่ทำให้โลกของไอทีก้าวหน้าไปมากที่สุดก็คือมีแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ อีกมากมายที่ความต้องการไอทีพุ่งสูงขึ้น ปัจจุบันมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำสิ่งต่างๆมากมายตั้งแต่โปรแกรมประมวลผลคำไปจนถึงการใช้สเปรดชีตซึ่งการมีความรู้ในสาขานี้ไม่มีที่สิ้นสุด

ถ้าใครไปที่ร้านขายคอมพิวเตอร์มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คน ๆ หนึ่งสามารถใส่ลงในคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์มากมายที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเช่นโทรศัพท์และเครื่องพิมพ์ เป้าหมายหลายครั้งคือการทำให้สิ่งต่างๆเร็วขึ้น